ทรัสต์ กอล์ฟ ได้ร่วมกับ เลดีส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ (แอลอีที) และเอเชียนทัวร์ จัดการแข่งขันกีฬากอล์ฟอาชีพ ในรูปแบบผสมทั้งประเภทชาย–หญิง จำนวน 2 รายการติดต่อกัน ในประเทศไทย โดยใช้ชื่อรายการว่า “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ ซีรีส์” ในการแข่งขันจะมีการชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (เป็นเงินไทยประมาณ 49 ล้านบาท) โดยในการแข่งขันในสนามแรก จะเปิดฉากการแข่งขันขึ้นในชื่อรายการว่า “เอเชียน มิกซ์ คัพ” ในระหว่างวันที่ 7 เมษายน 2565 – วันที่ 10 เมษายน 2565 โดยชิงเงินรางวัลมูลค่า 750,000 เหรียญสหรัฐ ณ สยามคันทรีคลับ วอเตอร์ไซด์ พัทยา จังหวัดชลบุรี
สำหรับการแข่งขันกอล์ฟในรายการนี้ เป็นการแข่งขันในรูปแบบผสมทั้งประเภทชาย–หญิง โดยแข่งขันกันในระดับเอเชียนทัวร์ และในระดับเลดีส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ เป็นการแข่งขันครั้งแรกในประเทศไทย และก็ได้ถือว่าเป็นการแข่งขันในระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกในทวีปเอเชีย โดยการลงสนามแข่งขันครั้งนี้จะมีโปรกอล์ฟในระดับชั้นนำแนวหน้าลงสนามเพื่อประชันวงสวิงกันอย่างคับคั่ง รวมทั้งหมด 144 คน อาทิเช่น
- สดมภ์ แก้วกาญจนา (โปรเพชร)
- พชร คงวัดใหม่ (โปรเพชร)
- ชเนตตี วรรณแสน (โปรพราว)
ในขณะที่โปรกอล์ฟชั้นนำจากที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ทั้งประเภทชายและหญิง เพื่อแข่งขันในรายการเอเชียนทัวร์ และรายเลดีส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ ที่ได้ลงสนามจะร่วมชิงชัยในครั้งนี้ อาทิเช่น
- จู–ฮยอง คิม
- ชีห์ วาน คิม
- ลีแอน เพซ
- ซานน่า นูทิเนน
- มาย่า สตาร์ค
- วิทนีย์ ฮิลเลียร์ (โปรกอล์ฟ ลูกครึ่งชาวไทย สัญชาติออสเตรเลีย จากการแข่งขันในรายการเลดีส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์)
“โปรเพชร” สดมภ์ แก้วกาญจนา โปรกอล์ฟหนุ่มชาวไทย วัย 24 ปี จากจังหวัดนราธิวาส ซึ่งในขณะนี้ได้จัดเป็นมืออันดับ 129 ของโลก ได้มีฟอร์มการเล่นที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ทั้งในการแข่งขันรายการเอเชียนทัวร์ และรายการทรัสต์กอล์ฟทัวร์ รวมไปถึง “โปรเพชร” ยังได้รับสิทธิให้ไปลุยในศึกเมเจอร์ ดิ โอเพ่น ในครั้งที่ 150 ที่สนาม เซนต์แอนดรูว์ส ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 นี้ และได้มีการเปิดเผยว่า การแข่งขันรายการที่มีโปรกอล์ฟชายและโปรกอล์ฟหญิงร่วมแข่งขันกันในรายการนี้ ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และได้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าในการที่ได้เห็นโปรกอล์ฟหญิงได้ลงสนามเล่น แฟนกีฬากอล์ฟก็จะได้ดูการตีในชอตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกระยะสั้น หรือการตีลูกข้างกรีน ซึ่งลักษณะการเล่นจะมีความแตกต่างจากโปรกอล์ฟชายมากพอสมควร
สำหรับในการเตรียมความพร้อมของนักกีฬาและสตาร์ฟโค้ช ในการแข่งขันรายการนี้ โปรกอล์ฟมือหนึ่งประเภทชายชาวไทย ได้กล่าวไว้ว่า นักกีฬาได้มีการเตรียมตัวเพื่อมาลงสนามเล่นในเกมการแข่งขันให้ดีที่สุด และจะต้องเล่นไปตามเกมของตัวเอง และต้องพยายามปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสนามให้รวดเร็วที่สุดอีกด้วย ในการแข่งขัน รายการ “ทรัสต์กอล์ฟ เอเชียน มิกซ์ซีรีส์” การแข่งขันทั้ง 2 รายการ คือ รายการ “เอเชียน มิกซ์ คัพ” และรายการ เอเชียน มิกซ์ สเตเบิลฟอร์ด ชาลเลนจ์ ในช่วงสัปดาห์ต่อไป ก็จะทำผลงานเพื่อให้ออกมาดีที่สุด ในเบื้องต้นการแข่งจะต้องผ่านการคัดตัวใน 2 วันแรกไปให้ได้เสียก่อน และขอรับรองว่าในรายการนี้การแข่งขันรูปแบบใหม่สนุกแน่นอน
“โปรเพชร” พชร คงวัดใหม่ โปรกอล์ฟหนุ่มชาวไทย วัย 23 ปี จากจังหวัดสงขลา ซึ่งเขาได้คว้าแชมป์แรกได้ในการแข่งขันในระดับเอเชียนทัวร์ได้เป็นครั้งแรก เมื่อปลายปี 2564 และยังสามารถติดอยู่ในกลุ่มของผู้นำโปรกอล์ฟที่สามารถทำเงินรางวัลได้สูงสุดของการแข่งขันเอเชียนทัวร์ ได้เปิดเผยไว้ว่า มีความรู้สึกดี และมีความรู้สึกตื่นเต้นที่จะมีรายการแข่งขันในรูปแบบใหม่ที่โปรกอล์ฟชาย และโปรกอล์ฟหญิงจะทำการแข่งขันกันเกิดขึ้น จากที่ผ่านมาได้เคยแข่งขันกันกับโปรกอล์ฟชายด้วยกันอย่างเดียว ครั้งนี้ตนเองก็ได้เชื่อว่าในการแข่งขันกับโปรกอล์ฟหญิงจะเป็นการแข่งที่มีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น เขาได้ฝึกซ้อมมาโดยตลอดเพื่อเป็นการเตรียมตัวให้มีความพร้อมที่สุดสำหรับการแข่งขันในรายการนี้ และนี่คือความท้าทายรูปแบบใหม่ของนักกีฬากอล์ฟ ซึ่งจะต้องมีการคิดเพื่อวางแผนและต้องมีการปรับตัวในการที่จะสร้างเกมกอล์ฟของตัวเองเพื่อให้ออกมาแบบดีที่สุด และจะต้องรักษาคุณภาพการเล่นของตัวเองเอาไว้ให้ได้ “โปรเพชร” อยากให้แฟนกีฬากอล์ฟทุกคนเป็นกำลังใจเอาใจช่วย และช่วยเชียร์โปรกอล์ฟไทยทุกคนในการแข่งขันรายการนี้ด้วย
ทางด้านของ “โปรพราว” ชเนตตี วรรณแสน โปรกอล์ฟสาวชาวไทยวัย 17 ปี จากจังหวัดเชียงใหม่ ที่เพิ่งจะได้คว้าแชมป์ กอล์ฟรายการผสม ชาย–หญิง ไทยแลนด์ มิกซ์ โฮสต์บาย ทรัสต์กอล์ฟ 2022 จำนวนทั้ง 2 สนาม ที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้เปิดเผยด้วยว่า การแข่งขันกอล์ฟในปีนี้ ตนเองก็ได้มีการตั้งความหวังไว้มากในการแข่งขันในทุกรายการที่ได้ลงสนามเล่น และก็ได้คว้าแชมป์มาครองติด ๆ กันตามที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ เป็นการสร้างความมั่นใจให้ตนเองสำหรับการลงสนามเล่นในรายการ “เอเชียน มิกซ์” ได้เป็นอย่างมาก การที่ได้เล่นกับโปรกอล์ฟชายในสนามแข่งเดียวกัน ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ เพื่อที่จะได้เรียนรู้ถึงลูกเล่นและวิธีการเล่นในรูปแบบต่าง ๆ ของโปรกอล์ฟชายมากยิ่งขึ้น ซึ่งตนเองได้คิดว่าน่าจะสามารถทำได้ดีเหมือนเช่นเดิม และตนเองไม่น่าที่จะหลุดอันดับจากท็อป 5 ของรายการแข่งขัน